1. ต้นอัมพวา หรือ มะขามคางคก เป็นผลไม้พื้นบ้านที่ค่อนข้างหาได้ยาก เป็นพืชที่มีทรงพุ่มและใบสวยงาม ผลรับประทานได้ ปลูกเป็นไม้บอนไซก็ได้
มะขามป้อมสดๆ โดยธรรมชาติ มะขามป้อมแป้นสยาม มะขามป้อมอินเดีย ต้นมะขามเทศด่าง ต้นพันธุ์มะขาม ต้นอัมพวา หรือ มะขามคางคก มะเปรียง นํานํา นางอาย ลูกอายบูรานัม มังคะ หล่ําหล่ํา ชื่อสามัญ Nam namชื่อวิทยาศาสตร์ Cynometra cauliflora L ชื่อวงศ์ LEGUMINOSAE ต้นอัมพวา หรือ มะเปรียง เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สันนิษฐานว่าน่าจะมีถิ่นกําเนิดอยู่ทางตะวันออกของประเทศมาเลเซีย พบมีการกระจายพันธุ์อยู่ทั้งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศอินเดีย ทางภาคใต้และภาคกลางของประเทศไทยมักปลูกไว้ในสวนบริเวณบ้านเพื่อใช้ประโยชน์ หรือปลูกในกระถางเพื่อเป็นไม้ประดับ เจริญเติบโตได้ดีในบริเวณชายน้ํา ด้วยลักษณะสีของผลและผิวที่ขรุขระชาวภาคใต้จึงมักจะเรียกว่า ผลลูกคางคก ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ลําต้นมะขามคางคก เป็นพันธุ์ไม้ที่มีทรงพุ่มทึบสวยงาม ขนาดของลําต้นสูงประมาณ 3-15 เมตร เปลือกต้นมีสีน้ําตาลเทา ใบเป็นใบประกอบรูปไข่ มีใบย่อยออกเป็นคู่แยกกันคล้ายปีกผีเสื้อ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ มีสีเขียวอ่อน เมื่อใบยังอ่อนจะมีสีขาว หรือสีชมพู และห้อยลงมา ดอกออกเป็นช่อกระจุกรวมกันอยู่ตามปมของลําต้น กลีบดอกมีสีขาว มีกลีบเลี้ยงสีขาวอมชมพู ก้านดอกจะถูกหุ้มอยู่ด้วยเกล็ดสีน้ําตาล ผลมีรูปร่างแบน ลักษณะคล้ายไต ผิวผลขรุขระ เมื่อยังอ่อนจะเป็นสีน้ําตาลอมเขียว และเมื่อสุกจะกลายเป็นสีเหลือง มีน้ําหนักของผลประมาณ 200 กรัม ผลดิบมีรสเปรี้ยวคล้ายกับมะม่วงดิบ ส่วนผลสุกมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ผลจะสุกหลังจากออกผลมามาแล้วประมาณ 2-3 เดือน หรือเมื่อผิวของผลเป็นสีน้ําตาลอมเหลืองก็ให้ทําการเก็บเกี่ยวได้ เมล็ดภายในผลมีเมล็ดลักษณะแบนสีน้ําตาล ซึ่งคล้ายกับเมล็ดมะม่วงเพียง 1 เมล็ด การขยายพันธุ์ต้นมะขามคางคกสามารถทําได้ง่ายๆ ด้วยการเพาะเมล็ด หรือจะใช้วิธีตอนกิ่งก็ได้ มะขามคางคกสามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่ลุ่มเขตร้อนในเขตมรสุม ชอบที่โล่งแจ้งกลางแดด ต้องการปริมาณน้ําฝนประมาณ 1,500-2,000 มม ปี ลําต้นสามารถต้านทานต่อลมแรงได้ อุณหภูมิที่เหมาะสมในการปลูกอยู่ที่ประมาณ 22-35 องศาเซลเซียส หรือแม้แต่ในที่ร่มเงาก็สามารถเจริญเติบโตได้เช่นกัน ต้นมะขามคางคกจะเจริญเติบโตขึ้นมาหลังจากเพาะเมล็ดไปได้ประมาณ 3 เดือน การเจริญเติบโตในช่วงแรกๆ จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ต่อมาจะค่อยๆ ช้าลง และเมื่อปลูกไปได้ประมาณ 6 ปี ก็จะเริ่มให้ดอก ในบางพื้นที่อาจติดดอกได้ตลอดทั้งปี ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรูพืช แต่ควรมีการป้องกันการทําลายผลของหนูหรือพวกหนอนเจาะ ด้วยการใช้ถุงมาห่อหุ้มผล ประโยชน์ผลแก่-ใช้รับประทานสด หรือนําไปต้มน้ําตาล ทําเป็นสลัดผลไม้ผลสุก-ใช้รับประทานเป็นผลไม้เปลือกต้นและราก-ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับเลือด รักษาโรคมะเร็งเนื้อไม้-ใช้ในงานก่อสร้างต่างๆ มะขามคางคก เป็นผลไม้พื้นบ้านที่ค่อนข้างหาได้ยากในปัจจุบัน ซึ่งไม่นิยมปลูกกันมากนัก ในบางพื้นที่พบว่ามีอายุมากกว่าร้อยปี เป็นพืชที่มีทรงพุ่มและใบสวยงาม ส่วนผลก็นํามารับประทานได้ จึงสามารถปลูกไว้เป็นไม้ผลในสวน หรือจะปลูกไว้ในกระถางเป็นไม้ประดับประเภทบอนไซก็ได้